โทรฟี่ประวัติศาสตร์, เดินหน้าลุ้น3แชมป์-ไร้พ่าย ! 5 ประเด็น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์บุนเดสลีกา

ชาบี อลอนโซ่ เทรนเนอร์คนหนุ่มของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สานฝันที่แฟนบอล "ห้างขายยา" รอคอยมานานถึง 120 ปีให้เป็นจริงแล้ว นั่นก็คือการผงาดคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี สมัยแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร

เลเวอร์คูเซ่น โชว์ฟอร์มโคตรโหดในแมตช์ปะทะ แวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา โดยสามคะแนนในเกมนี้เป็นเครื่องการันตีแล้วว่า พวกเขาจะได้ครอบครองถาดแชมป์ 

ความสำเร็จของ อลอนโซ่ แอนด์ โค. เป็นการยุติการครอบครองความยิ่งใหญ่ในลีกของ บาเยิร์น มิวนิค ที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 11 สมัยติดต่อกัน (2012-2023) แถมพวกเขายังมีภารกิจลุ้นอีก 2 แชมป์ที่เหลืออยู่ได้แก่ เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะทีมยังมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ไร้พ่ายทุกรายการด้วย !!

1. แชมป์ลีกประวัติศาสตร์สโมสร

แฟนบอลไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สิ้นสุดการเฝ้ารอถาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี กันซะที หลังจากที่พลพรรค "ห้างขายยา" จัดการปราบ แวร์เดอร์ เบรเมน 5-0 ทำให้พวกเขาการันตีตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 เลเวอร์คูเซ่น เปิดรังไบ อารีน่า  รับมือ เบรเมน โดนหากพวกเขาสามารถคว้าสามคะแนนนั่นหมายความว่าพวกเขาจะเก็บเพิ่มเป็น 79 คะแนนนำห่าง บาเยิร์น มิวนิค 16 คะแนน และเหลือการแข่งขันเพียง 5 นัดซึ่งนั่นหมายความว่า "เสือใต้" ไม่มีทางตามทันแน่นอน 

ด้วยแรงกระตุ้นในการคว้าแชมป์ลีก กอรปกับการเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองทำให้บรรดาลูกทีมของชาบี อลอนโซ่ ปล่อยพลังเต็มสูบจัดการปราบ เบรเมน สบายเกือกคว้าสามคะแนนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเลยก็ว่าได้

เลเวอร์คูเซ่น เคยเกือบได้ครอบครองถาดอันทรงเกียรติวงการฟุตบอลแดนไส้กรอกมาแล้ว 5 ครั้ง แต่วาสนาไปไม่ถึงฝั่งฝันทำให้แฟนบอลได้แต่นั่งเศร้ากับความหวังที่ดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นจริง

แต่ตอนนี้สิ่งที่เฝ้ารอมานาน 120 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเป็นความจริงแล้ว งานนี้ต้องขอบคุณบอร์ดบริหารทีมที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่, ชาบี อลอนโซ่ กุนซือคนหนุ่มที่โนเนมในงานโค้ชแต่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ในวงการลูกหนังเยอรมนี และที่ขาดไม่ได้แฟนบอล "ห้างขายยา" ที่ไม่เคยสิ้นหวังทีมรักของพวกเขา 

สำหรับการมอบถาดแชมป์จะมีขึ้นในแมตช์สุดท้ายที่เล่นในบ้านพบ เอาส์บวร์ก ในวันที่ 18 พฤษภาคม งานนี้บอกเลยว่าคงได้เห็นแฟนบอลเจ้าบ้านได้ลงมาฉลองในสนามอีกครั้งแน่นอน 

2. เดินหน้าสร้างสถิติไร้พ่ายทุกรายการ

 สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการที่ อลอนโซ่ เข้ามากุมบังเหียนก็คือการที่พวกเขาเป็นทีมที่เสียประตูยากมาก ในขณะเดียวกันก็สามารถผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งนี่เป็นจุดที่สำคัญมากๆ สำหรับทีมที่จะเป็นแชมป์ลีก

กุนซือชาวสแปนิช นำลูกทีมเล่นเกมบุกได้อย่างดุดันแต่เกมรับของพวกเขาก็มีความเหนียวแน่น โดยสถิติหลังจบแมตช์ที่ 29 ทัพ "ห้างขายยา" ซัดประตูในลีกไปแล้ว 74 ประตู และเสียแค่ 19 ลูกเท่านั้น ที่สำคัญยังไม่แพ้ใครเลย ! 

ภารกิจในการคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว แต่ดูเหมือน ชาบี อลอนโซ่ แอนด์ โค. ยังมีเป้าหมายที่น่าสนใจนั่นก็คือการสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แบบไร้พ่าย

สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน เลเวอร์คูเซ่น เก็บสถิติไม่แพ้ใครในลีกเป็นนัดที่ 29 แล้ว ซึ่งเป็นสถิติใหม่โดยแซงหน้าสถิติเดิม 28 เกมที่ถูกสร้างขึ้นโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สมัยที่คุม บาเยิร์น มิวนิค เมื่อฤดูกาล 2013/2014 แต่ถ้านับรวมทุกรายการตอนนี้พวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น 43 เกม โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 38 แมตช์เลยทีเดียว 

ดังนั้นนี่เป็นสถิติที่น่าเย้ายวนสำหรับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับ เลเวอร์คูเซ่น ก็แหมไหนๆ สร้างประวัติศาสตร์ทั้งทีก็ทำให้มันยิ่งใหญ่เพื่อเป็นการฉลองก่อตั้งสโมสรครบ 120 ปีมันซะเลย 

3. ไล่ล่าทริปเบิ้ลแชมป์

 ความสำเร็จในฤดูกาลนี้ของ เลเวอร์คูเซ่น ยังไม่หมดเพราะพวกเขามีโอกาสที่จะได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรชนิดที่โลกต้องจดจำ เพราะมันไม่ใช่แค่แชมป์บุนเดสลีกา เท่านั้นที่จะได้นำมาประดับตู้โชว์สโมสร แต่ยังมีโทรฟี่ เดเอฟเบ โพคาล และยูฟ่า ยูโรปา ลีก อีกด้วย

 "ห้างขายยา" เคยมีเกียรติประวัติระดับเมเจอร์ประดับบารมีแค่ 2 รายการเท่านั้นได้แก่ เดเอฟเบ โพคาล (1992/1993) และ ยูฟ่า คัพ (1987/1988) นอกจากแชมป์ลีกที่ชวดมาครอบครอง 5 ครั้งแล้ว ยังมียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เป็นเพียงพระรอง (แพ้ เรอัล มาดริด ซีซั่น  2001/2002) 

อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ อลอนโซ่ สามารถเสกแชมป์บุนเดสลีกาที่พวกเขารอคอยมานานกว่าศตวรรษได้สำเร็จแล้ว แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะตู้โชว์ความสำเร็จของสโมสรยังมีพื้นที่ว่างให้ทีมได้นำแชมป์อีก 2 รายการมาวางเคียงข้างกัน

ที่สำคัญไม่ใช่ว่าจะเป็นไปได้เพราะตอนนี้ เลเวอร์คูเซ่น ทะลุเข้าชิงเดเอฟเบ โพคาล โดยคู่แข่งก็คือ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ซึ่งหากมองถึงศักยภาพและกำลังใจตอนนี้บอกเลยว่าเป็นรอง "ห้างขายยา" เยอะมาก 

ขณะที่ในถ้วยยูโรปา ลีก (ยูฟ่า คัพ) ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าสุ่รอบรองชนะเลิศแล้ว หลังในรอบ 8 ทีมสุดท้ายชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 ในเกมแรก ส่วนเลกสองที่จะเจอกันในไบ อารีน่า คาดว่า อลอนโซ่ และลูกทีมคงไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไป 

4. หยุดความยิ่งใหญ่ของ บาเยิร์น 

ช่วงต้นฤดูกาลหลายคนฟันธงว่า บาเยิร์น มิวนิค คงจะซิวแชมป์ลีกอีกสมัย  หลังพวกเขามีการเสริมทัพครั้งสำคัญนั่นก็คือการคว้าตัว แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษ มาร่วมทัพ 

เคน มาพร้อมกับความหวังในการตะบันตาข่ายคู่แข่ง และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อซัดประตูเป็นว่าเล่นจนนำเป็นดาวซัลโวประจำลีกในเวลานี้ แต่ผลงานส่วนตัวกับฟอร์มโดยรวมของ "เสือใต้" สวนทางกัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ บาเยิร์น ต้องชวดแชมป์ในซีซั่นนี้

แน่นอนว่ามีแฟนบอลมากมายที่ยากเห็น บาเยิร์น หล่นจากบัลลังก์ เพราะพวกเขาครอบครองความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์มาอย่างยาวนาน ล่าสุดก็คว้าแชมป์ลีก 11 สมัยติดต่อกัน 

ดังนั้นการได้เห็น เลเวอร์คูเซ่น สามารถแย่งชิงความสำเร็จมาจาก บาเยิร์น ได้ เป็นสิ่งที่หลายคนแอบส่งกำลังใจเชียร์ ยิ่งไปกว่านั้นถ้า ยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียไม่สามารถหากุนซือที่เหมาะสมมากุมบังเหียน ดีไม่ดีพวกเขาอาจจะโดน "ห้างขายยา" ทำเจ็บช้ำอีกครั้งในฤดูกาลหน้าก็ได้  

5. แชมป์แรก ชาบี อลอนโซ่

ตอนนี้ ชาบี อลอนโซ่ สถาปนาตัวเองในฐานะกุนซือที่น่าจับตามองที่สุดในโลกเรียบร้อยแล้ว หลังสามารถสร้าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จากทีมที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นกลายเป็นทีมแชมป์บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2023/2024

"คุณชาย" เป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดตอนที่เป็นพ่อค้าแข้งโดยประสบความสำเร็จมากมายกับ ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ขณะที่กับทีมชาติสเปนก็คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2008 กับ 2012 

หลังแขวนสตั๊ด อลอนโซ่ เริ่มหันไปทำงานด้านโค้ชแบบเต็มตัวโดยเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด ก่อนจะขยับไปกุมบังเหียน เรอัล โซเซียดาด ทีมสำรองลงเล่นในเซกุนด้า เบ ประเทศสเปน 

เมื่อสั่งสมประสบการณ์ได้มากพอ อลอนโซ่ ตัดสินใจคว้าโอกาสสำคัญในการเข้ามากอบกู้ เลเวอร์คูเซ่น ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2022 ซึ่งในเวลานั้นพวกเขากำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนหนีการตกชั้น แต่เพียงไม่กี่เดือนเขาก็สามารถเปลี่ยนทีมจากที่อ่อนปวกเปียกกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อย

สุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล 2022/2023 ทีมจบอันดับ 6 คว้าตั๋วไปลุยศึกยูโรปา ลีก ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ต่อยอดด้วยการค่อยๆ ปรับเสริมเติมแต่งจนได้ทีมที่เหมาะสมลงตัว และนำมาสู่แชมป์ลีกอย่างที่ทุกคนได้เห็นในปัจจุบัน 

ยิ่งไปกว่านั้น อลอนโซ่ ประกาศจุดยืนชัดเจนจะขออยู่ทำงานกับ เลเวอร์คูเซ่น ต่อไปในฤดูกาลหน้า และนั่นเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาต้องการนำสโมสรแห่งนี้ท้าทายความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นั่นก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก !!!

ทอมเม้ง



ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport